ThaiBev ThaiTalent

 

บริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดย “เครื่องดื่มตราช้าง” สานฝันเยาวชนไทย มอบให้เพื่ออนาคต พร้อมออกเดินทางไปหาน้องๆเยาวชนกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ กับคาราวานความสุข ส่งตรงให้น้องๆกันถึงสนาม เปิดคลินิคฟุตบอลเคลื่อนที่ “ช้าง โมบาย ฟุตบอล ยูนิต” 

 

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 ที่สนามไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี คุณสุรพล อุทินทุ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก พร้อมด้วยคุณธารทิพย์ ศิรินุพงศ์ ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชุมชน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และคุณวิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมแถลงข่าวคลินิคฟุตบอลเคลื่อนที่ ช้าง โมบาย ฟุตบอล ยูนิต ปีที่ 7

 

คุณสุรพล อุทินทุ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กว่า 20 ปี ที่ทาง”ช้าง” ได้สนับสนุนวงการฟุตบอลไทยแบบพัฒนาทั้งระบบในทุกระดับ โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของเยาวชน จึงได้ริเริ่มโครงการเพื่อสร้างรากฐานและพัฒนาทักษะกีฬาฟุตบอลแก่น้องๆเยาวชนมากมาย ซึ่งเยาวชนเหล่านี้เปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่ต้องได้รับการบ่มเพาะอย่างถูกต้องถูกวิธี เพื่อที่จะเติบโตไปเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแกร่งในอนาคต เราจึงได้เริ่มต้นโครงการสอนทักษะฟุตบอล ที่สนามไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี กรุงเทพฯขึ้น ซึ่งดำเนินการมากว่า 15 ปี และได้สร้างกำลังสำคัญให้แก่วงการลูกหนังไทยอย่างมากมายทั้งในระดับอาชีพจนถึงระดับทีมชาติ

นอกจากนี้ยังได้ขยายการเข้าถึงกีฬาฟุตบอลไปยังพื้นที่ห่างไกล ให้น้องๆในต่างจังหวัดและถิ่นทุรกันดารได้รู้จักและเรียนรู้กีฬาฟุตบอลมากยิ่งขึ้น จึงได้จัดคลินิคฟุตบอลเคลื่อนที่แห่งแรกของไทย “ช้าง โมบาย ฟุตบอล ยูนิต” ซึ่งในปัจจุบันนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 7 แล้วที่เราเดินไปทั่วประเทศทุกภูมิภาคกว่า 20 แห่ง รวมถึงเดินทางไปสอนคลินิคฟุตบอลยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาวอีกด้วย ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา มีน้องๆเยาวชนเข้าร่วมโครงการกว่า 70,000 คน และในทุกๆครั้งเราได้เห็นความตั้งใจ ความมุ่งมั่นของน้องๆที่จะมาเข้าร่วมคลินิค ถึงแม้จะห่างไกลและเดินทางลำบาก แต่น้องๆก็ยังพยายามที่จะมาเข้าร่วมคลินิคฟุตบอลให้ได้ ซึ่งเป็นภาพที่ประทับใจอย่างมาก”

 

คุณธารทิพย์ ศิรินุพงศ์ ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชุมชน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “นอกจากกิจกรรมส่งเสริมทักษะ 3 ด้าน คือ ดนตรี กีฬา ศิลปะ ที่เรานำมาฝากดังเช่นทุกปีแล้ว ในปีนี้เรายังมีกิจกรรมที่มุ่งเน้นการขยายผลการเรียนรู้ขึ้นจากเดิม และปรับให้เข้ากับแต่ละพื้นที่ คือ กิจกรรมด้านศิลปะ ที่เรามุ่งเน้นให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับเยาวชนและเกิดเศรษฐกิจชุมชนได้จริง ผ่านการใช้ความคิดสร้างสรรค์และการเพิ่มมูลค่าศิลปะประดิษฐ์ที่ได้เข้าไปสอน และยังมีกิจกรรมจากจิตอาสาพนักงานในเครือไทยเบฟและกลุ่มชุมชน ที่เพิ่มเติมกิจกรรมซึ่งก่อให้เกิดการแบ่งปันความรู้ ความชำนาญ ความสามารถแก่น้องๆเพิ่มขึ้น โดยการมีส่วนร่วมของพนักงานจิตอาสาไทยเบฟ หรือกลุ่มชุมชนในพื้นที่ ที่จะไปร่วมจัดกิจกรรมด้วยตัวเอง เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ เหมาะสมกับพื้นที่ และนำไปใช้สำหรับประกอบอาชีพได้จริง เรามีความยินดีทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มและความสุขของน้องๆ ในชุมชนที่มาเข้าร่วมกิจกรรม แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น เรามีความภาคภูมิใจ ที่ได้เห็นน้องๆ สามารถแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาให้เห็นอย่างโดดเด่น และประทับใจทุกครั้งเพราะน้องๆ ที่มาร่วมกิจกรรมในแต่ละพื้นที่ก็มีความตั้งใจและมีรอยยิ้มที่สดใส”

 

คุณสุรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปีนี้เราได้เพิ่มความเข้มข้นในการฝึก โดยเราได้ใช้หลักสูตรจากตำราโค้ชเฮง ซึ่งเป็นคัมภีร์ลูกหนังที่เป็นสุดยอดของวงการฟุตบอลไทย เป็นแบบแผนที่ถูกใช้ในทุกชุดเยาวชนจนถึงชุดใหญ่ในรูปแบบเดียวกันทุกชุด เพื่อสร้างเยาวชนไปสู่อาชีพและทีมชาติ ถ่ายทอดผ่านโค้ชระดับไลเซนส์มากประสบการณ์และปลูกปั้นเยาวชนส่งทีมชาติ นอกจากแบบแผนการฝึกใหม่แล้ว เรายังมีไอดอลขวัญใจเยาวชนที่เป็นคลื่นลูกใหม่ถึง 4 คนด้วยกัน อย่าง “ย้า” สิทธิโชค ภาโส, “ยิม” วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, “แระ” กฤษดา กาแมน และ “โฟล์ค” ชาคร พิลาคลัง ซึ่งล้วนเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่จะมาถ่ายทอดทักษะในทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น กองหน้า กองกลาง กองหลัง และผู้รักษาประตู ให้น้องได้เรียนรู้กันแบบกระทบไหล่กันในสนาม”

 

ด้านคุณวิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “วงการฟุตบอลไทยต้องให้ความสำคัญและสร้างตั้งแต่ระดับเยาวชน เพราะเยาวชนถือเป็นเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต เราจึงต้องเริ่มดัดตั้งแต่ยังเป็นไม้อ่อน และแบบฝึกที่จะนำไปใช้นี้ จะนำไปใช้ในทุกพื้นที่ของโครงการ ช้าง โมบาย ฟุตบอล ยูนิต 20 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้น้องๆได้มีโอกาสเรียนรู้ทักษะในการฝึกนี้ และนำไปพัฒนาตัวเองไปสู่ระดับชีพและระดับชาติต่อไป”

 

สำหรับในปีนี้ “ช้าง โมบาย ฟุตบอล ยูนิต” จะเดินทางไป 20 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว โดยเริ่มต้นที่ Ubon UMT Stadium จังหวัดอุบลราชธานี ในวันเสาร์ที่ 10 มีนาคมนี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และหากพื้นที่ใดสนใจให้“ช้าง”ไปจัดคลินิคฟุตบอลนี้ สามารถส่งรายละเอียดมาได้ที่ Facebook Thaibev Thaitalent นอกจากนี้ ทาง “ช้าง” ยังมีศูนย์ฝึกฟุตบอล “ช้าง ฟุตบอล คอมมิวนิตี้” ถึง 5 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้น้องๆได้ฝึกฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง